เชฟโรเลตตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2016



เปิดตัว คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ ซึ่งจะพร้อมให้บริการที่ผู้จัดจำหน่ายทุกแห่งภายในปี 2560
สะกดทุกสายตาด้วยการตกแต่งรถกระบะ รถเอสยูวี และรถเวอร์ชั่นพิเศษ
รับข้อเสนอโปรโมชั่นสุดดึงดูดใจสำหรับรถทุกรุ่นและอุปกรณ์ตกแต่งมากมาย

กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยนำเสนอเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยภายในบูธเชฟโรเลตซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “เชื่อมโลก เชื่อมคน ยานยนต์อัจฉริยะ” ของงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 ประจำปี 2016

เชฟโรเลตเน้นย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถกระบะโคโลราโดรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการตกแต่งพิเศษด้วยการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และสิริ อายส์ ฟรี ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

โคโลราโด เทรลเบลเซอร์ และแคปติวารุ่นใหม่ที่นำมาจัดแสดงภายในงาน นับเป็นยานยนต์รุ่นแรกในรถกลุ่มเดียวกันที่มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนท์ เชฟโรเลต มายลิงค์ รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และฟังก์ชั่นสิริ อายส์ ฟรี ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงผลจากหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีขนาด 8 นิ้ว ทำให้หน้าจอในรถใช้งานง่ายเหมือนกับหน้าจอโทรศัพท์ โดยสามารถรองรับสมาร์ทโฟนตั้งแต่ไอโฟน 5 ขึ้นไป







ด้วยการใช้งานสิริ อายส์ ฟรี ผู้ใช้สามารถสั่งการสมาร์ทโฟนขณะขับขี่ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย และไม่ต้องละสายตาจากถนน ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อมีทั้งการโทรเข้า,โทรออก, การส่งข้อความ, เพลง รวมถึงแอพพลิเคชั่นอื่นๆ

“เพื่อให้ลูกค้าอยู่กับเราตลอดไป เราต้องนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่สอดคล้องกับ     ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเรา” มร. เวล ฟาร์กาลี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทยและเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าว “การเชื่อมต่อสื่อสารเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ลูกค้าของเราต้องการ”



มร. ฟาร์กาลีกล่าวเพิ่มเติมว่า “โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเน้นย้ำความมุ่งมั่นของเราที่จะดำเนินกลยุทธ์เพื่อนำเสนอรถกระบะและรถเอสยูวีที่ดีที่สุดในตลาด อย่างไรก็ตาม การนำเสนอรถคุณภาพเยี่ยมและการบริการหลังการขายที่เป็นเลิศยังไม่เพียงพอ เราจะต้องมอบคุณสมบัติและประสบการณ์ใช้งานที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์และมีความจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้อย่างเต็มที่”

เชื่อมต่อทุกมิติกับคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์

เชฟโรเลตไม่เพียงนำเสนอฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไว้ในรถกระบะและรถเอสยูวีเท่านั้น แต่ยังนำประสบการณ์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อสุดล้ำที่มีชื่อว่า “คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์” ไว้ในโชว์รูมของผู้จัดจำหน่าย

คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ คือศูนย์รวมข้อมูลทางเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและจะให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ได้การรับรอง (Certified Technology Experts หรือ CTEs) คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ นำเสนอเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในปัจจุบันและในอนาคตที่จะช่วยให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น พร้อมกับทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจและเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวในรถกระบะและรถเอสยูวีได้อย่างเต็มที่เพื่อประสบการณ์ในการใช้งานที่น่าพึงพอใจมากขึ้นกว่าเดิม

เชฟโรเลตทำการเปิดตัวคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลต 2 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ ยนตรการ พรีเมียม คาร์บนถนนแจ้งวัฒนะ และพระนคร ยนตรการ บนถนนวิภาวดี ภายในช่วงสิ้นปีนี้จะมีผู้จัดจำหน่ายที่มี คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่งในพัทยา ขอนแก่น อุบลราชธานี และเชียงใหม่ พร้อมกับวางแผนขยาย คอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ เพิ่มเติมทั่วประเทศในปีพ.ศ. 2560

ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปจะได้สัมผัสกับคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อรับประสบการณ์การใช้งานอันน่าประทับใจของเชฟโรเลต เหมือนกับคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ที่โชว์รูมของผู้จัดจำหน่าย

รับข้อมูลด้วยการสแกน

เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการเยี่ยมชมบูธ เชฟโรเลตเปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสัมผัสกับรถเชฟโรเลตได้อย่างใกล้ชิดด้วยการสแกนคิวอาร์โค๊ดที่ติดอยู่บนรถที่จัดแสดงอยู่ภายในบูธ ผู้เยี่ยมชมสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถทั้งภาพและวีดีโอผ่านทางสมาร์ทโฟนของตนเองได้ทันที ทำให้พวกเขาได้รับความสะดวกสบายผ่านประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับผู้นำของเชฟโรเลตในทุกมุมมอง ไม่ใช่แค่การเป็นผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเท่านั้น

นอกจากนี้ผู้เข้าเยี่ยมชมยังได้มีโอกาสทดสอบขับรถเชฟโรเลตรุ่นใหม่ทั้งโคโลราโด เทรลเบลเซอร์ แคปติวา และครูซ เพื่อสัมผัสความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

สร้างความโดดเด่นได้ตามต้องการ

ผู้เยี่ยมชมบูธของเชฟโรเลตจะได้ยลโฉมรถที่น่าตื่นเต้นมากมายภายในบูธ เชฟโรเลตไม่เพียงจัดแสดงรถครบครันทุกรุ่นเท่านั้น แต่ยังนำเสนอรถเวอร์ชั่นพิเศษสุดที่มีความโดดเด่นสะกดทุกสายตา

เริ่มจากโคโลราโด เวอร์ชั่น “ออฟโรด สไตล์ ตอนเซ็ปท์” ได้รับการตกแต่งให้มีความแข็งแกร่ง บึกบึน ดุดัน และสมบุกสมบันยิ่งขึ้น โคโลราโด “ออฟโรด สไตล์ ตอนเซ็ปท์” มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้วและยางออฟโรด (สำหรับรุ่นที่จัดแสดงเท่านั้น) อุปกรณ์เสริมสมรรถนะยังรวมถึงสน็อกเกิล สกิ๊ดเพลท บันไดที่กันชนหลัง และคิ้วซุ้มล้อที่ทำให้รถกระบะรุ่นพิเศษนี้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น



เชฟโรเลตยังนำเสนอความสมบูรณ์แบบสำหรับเทรลเบลเซอร์ รถเอสยูวี ระดับพรีเมี่ยม สไตล์อเมริกันด้วยเวอร์ชั่น “เพอร์เฟ็คท์ แบล็ก คอนเซ็ปท์” ซึ่งไม่เพียงติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งที่ผลิตโดย      เชฟโรเลตเท่านั้น เทรลเบลเซอร์ “เพอร์เฟ็คท์ แบล็ก คอนเซ็ปท์” ยังเสริมความสปอร์ตและพรีเมี่ยมด้วยแผงกันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม คิ้วซุ้มล้อ สปอยเลอร์ท้ายหลังคา และกระจังหน้าสีดำเงา โดยทุกชิ้นจะเป็นสีดำตามคอนเซ็ปท์ “เพอร์เฟ็คท์ แบล็ก” ที่เน้นย้ำการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว



สำหรับแคปติวาจะได้รับการตกแต่งสุดพิเศษและจัดแสดงที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปเท่านั้น โดยมีชื่อว่า แคปติวา “โครเมี่ยม เอดิชั่น” ดึงดูดทุกสายตาด้วยพื้นผิวตัวถังแบบสะท้อนแสงที่จะขับเน้นเส้นสายและมิติตัวถังที่สวยงามของแคปติวาในรูปแบบใหม่ พร้อมกับเพิ่มความสปอร์ตแบบ “ซูเปอร์คาร์” ให้แก่รถเอสยูวีรุ่นนี้

รถเวอร์ชั่นพิเศษที่เชฟโรเลตนำมาจัดแสดงในงานนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่ให้ความสำคัญแก่ลูกค้าโดยลูกค้าสามารถปรับแต่งรถเชฟโรเลตของพวกเขาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความหลากหลายของอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้ลูกค้าสามารถตกแต่งรถเชฟโรเลตของตนเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เชฟโรเลตได้พัฒนาแพ็คเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างสรรค์และคิดค้นสไตล์ของตนเอง อุปกรณ์ตกแต่งของโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ถูกพัฒนาขึ้นจากรถรุ่นพิเศษที่จัดแสดงในงานเปิดตัวรถทั้งสองรุ่น เชฟโรเลตได้พัฒนาแพ็คเกจอุปกรณ์ตกแต่งหลากหลายสไตล์ให้เหมาะสมกับงบประมาณและความชื่นชอบส่วนบุคคลของลูกค้าทุกคน







โคโลราโดรุ่นใหม่ล่าสุดมี 4 แพ็คเกจมาตรฐาน ได้แก่ ชุดตกแต่งโคโลราโดระดับ Strong (ราคา 10,000 บาทสำหรับอุปกรณ์ตกแต่ง 7 รายการ) ชุดตกแต่งโคโลราโดระดับ Medium (ราคา 20,000 บาทสำหรับอุปกรณ์ตกแต่ง 8 รายการ) ชุดตกแต่งโคโลราโดระดับ Large (ราคา 45,000 บาทสำหรับอุปกรณ์ตกแต่ง 10 รายการ) และชุดตกแต่งโคโลราโดระดับ Premium (ราคา 70,000 บาทสำหรับอุปกรณ์ตกแต่ง 12 รายการ) อุปกรณ์ตกแต่งมีทั้งสปอร์ตบาร์ ฝาปิดกระบะท้าย พื้นปูกระบะ บันไดข้าง และกระจังหน้าสีดำเงา เชฟโรเลตยังนำเสนอแพ็คเกจพิเศษที่มีอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมในชื่อ “ออฟโรด สไตล์ ตอนเซ็ปท์” ประกอบด้วยล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยางออฟโรด สน็อกเกิล สกิ๊ดเพลท โครงเหล็กกันชน และบันไดกันชนหลัง โดยประกาศราคาจำหน่ายที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

สำหรับเทรลเบลเซอร์ เชฟโรเลตนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซิลเวอราโด และโคโลราโด มิดไนท์ เอดิชั่นในสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์ตกแต่งของเทรลเบลเซอร์มีราคาจำหน่ายที่ 27,000 บาท ประกอบด้วยหน้าจอดีวีดีในรถ สปอยเลอร์บนหลังคาท้าย ที่รองแก้ว กันชนหลัง โลโก้   เชฟโรเลตโบว์ไทสีดำด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากแพ็คเกจมาตรฐานดังกล่าว เชฟโรเลตยังนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมสำหรับเทรลเบลเซอร์ที่มีชื่อว่า “เพอร์เฟ็คท์ แบล็ก คอนเซ็ปท์” มีชุดแต่งพิเศษ 5 รายการ ได้แก่ กันชนหน้า กันชนหลังและปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม คิ้วซุ้มล้อ สปอยเลอร์ท้ายหลังคา (ดีไซน์ใหม่) และกระจังหน้าสีดำเงา โดยประกาศราคาจำหน่ายที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป



แคปติวาจะมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นกัน โดยได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด “ซูเปอร์คาร์” เพื่อยกระดับให้รถเอสยูวีรุ่นนี้มีความพรีเมียมและโดดเด่นสะกดทุกสายตามากยิ่งขึ้น อุปกรณ์ตกแต่งดังกล่าวมีทั้งกันชนหน้าและหลัง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์บนหลังคาท้าย

“เจ้าของรถเชฟโรเลตจะได้ใช้งานรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากเชฟโรเลต พวกเขาจะได้ขับรถที่เหมาะกับบุคลิกของตนเองและโดดเด่นเหนือกว่าใครบนท้องถนน ทำให้พวกเขาเกิดความภาคภูมิใจในรถเชฟโรเลตมากยิ่งขึ้น” คุณอิทธิพร โลกุตรพล ผู้อำนวยการฝ่ายการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และพัฒนาธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่ง เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว “อุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ผ่านการทดสอบคุณภาพ ความทนทาน และมีการรับประกันจากผู้ผลิต”

พบกับเชฟโรเลตได้ที่บูธ A11 ที่งานมหกรรมยานยนต์หรือไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 33 ประจำปี 2016 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธันวาคม เวลา 12.00 – 22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11.00 – 22.00 น. ในหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม